“Stay at home economy” กับกลุ่ม B-INNOTECH

“Stay at home economy”

ประโยชน์ที่ได้กับกลุ่มกองทุน B-INNOTECH และ B-INNOTECHRMF

โดย Product Mangement, กองทุนบัวหลวง

Fidelity Global Technology Fund

  • ผลการดำเนินงานดีกว่าคู่แข่งโดยได้ 1st Quartile Performance ในช่วง 6M, 5Y, 7Y, 10Y (ข้อมูลสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563)
  • Small/Mid Cap Bias: เพราะคัดสรรเฉพาะบริษัทที่จะเป็น Winners of tomorrow และมีโอกาสตกเป็นเป้าหมาย M&A ในอนาคต ทำให้นักลงทุนได้รับการกระจายการลงทุนที่ดี โดยลงทุนในหุ้นเติบโตที่ไม่ได้อ้างอิงไปกับดัชนี (หรือกองทุน ETFs ที่เน้นหุ้นขนาดใหญ่ และราคาเพิ่ม/ลดไปตามกระแสเงินไหลเข้า/ออกของเงินทุน)
  • ลงทุนแบบ Active: สัดส่วนหุ้นกว่า 73% อยู่นอกเหนือจากดัชนี MSCI ACWI Information Technology โดยถือครองหุ้น ณ ปัจจุบันจำนวน 64 บริษัท (ข้อมูล ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563)

โดยภาพรวมของเทคโนโลยีโลก (ไม่ได้หมายถึงเฉพาะบริษัทเทคฯที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดฯ) คาดว่าบริษัทในกลุ่มโกลบอลเทคโนโลยีจะเริ่มมองหา/แหล่งพึ่งพิงซัพพลายเชนจากแหล่งใหม่ๆ หลังจากที่ห่วงโซ่อุปทานได้รับ

ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 โดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยีจีนที่เริ่มต้นปฏิรูปตนเอง ด้วยการลดการพึ่งพิงสินค้าต้นน้ำในประเทศใดประเทศหนึ่ง (ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของตลาดโลก) และหันมาพึ่งพิงตนเองให้มากขึ้น

กองทุนหลักมีฐานะการลงทุนในบริษัทที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่จำแนกตามธีม (Th

ematic Sector) แล้วได้รับประโยชน์จาก Stay at home economy ได้แก่

Video Gaming (Overweight, โดยมีสัดส่วนการลงทุนตามธีมนี้มีประมาณ 9%) ได้รับประโยชน์โดยตรงจากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 การที่คนอยู่แต่ในบ้าน หมายถึง ใช้เวลาไปกับ และมีเวลาซื้อไอเทมในเกมส์เพิ่มขึ้น ในความเป็นจริง รายได้บริษัทเกมส์ เพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงก่อนหน้า อาทิบริษัทลงทุนในพอร์ตกองทุนหลัก เช่น
บริษัท Activision Blizzard (กองทุนหลักมีสัดส่วนลงทุน 1.70%) – “Call of Duty: Warzone” เกมส์สตรีมมิ่งซึ่งมีคนจำนวน 15 ล้านคนทั่วโลก เล่นเกมส์นี้ ในช่วง 4 วันแรกภายหลังการเปิดตัววันที่ 10 มีนาคม 2563

บริษัท Electronic Art (กองทุนหลักมีสัดส่วนลงทุน 2.20%) – “Apex Legends” เกมส์สตรีมมิ่ง ที่มียอดลงทะเบียนดาวน์โหลดถึง 2 ล้าน Subscriber (ครั้ง) เพียงวันแรกของการเปิดตัวตอนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563

ในอิตาลี คนจำนวนมากเล่น Fortnite ในช่วงที่มีการระบาด COVID-19 จนทำให้ระบบเครือข่ายโทรคมนาคมของประเทศเริ่มได้รับผลกระทบ

ในส่วนของ Valve’s Steam platform ยอดผู้เล่นทะลุ 20 ล้านคนใน ทันทีที่ทางการสหรัฐฯประกาศการแพร่ระบาดเชื้อในประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2563

บริษัท Netease (กองทุนหลักมีสัดส่วนลงทุน 1.24%) – สถานการณ์ COVID-19 ในจีนเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นกับธุรกิจเกมส์ออนไลน์ จากการกักตัวอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคจากทางการจีน ทำให้หุ้นตัวนี้ซึ่งกองทุนหลักลงทุนตามธีมระยะยาว Structural Growth จึงไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบ

บริษัท Tencent (กองทุนหลักไม่มีฐานะลงทุน) – รายได้ธุรกิจในหมวดเกมส์ออนไลน์เพิ่มขึ้น 25% เนื่องจากผู้คนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน แต่ก็อาจสูญเสียรายได้จากการโฆษณาไป ซึ่งอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์จากที่ผู้จัดการกองทุนหลัก

Digital Media Consumption (Overweight, กองทุนหลักมีสัดส่วนลงทุนตามธีมนี้มีประมาณ 11%) ได้รับประโยชน์จากการที่คนอยู่บ้าน อาทิ บริษัท Netflix (กองทุนหลักมีสัดส่วนลงทุน 2.50%) ยอดผู้ลงทะเบียนสมาชิกเพิ่มขึ้น

ผู้จัดการกองทุนหลักกล่าวว่าภายใต้สถานการณ์ COVID-19 ปัจจัยด้านการลงทุนและธีมในระยะยาวของกองทุนหลัก (ยกตัวอย่าง cloud computing, artificial intelligence, machine learning) ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง พอร์ตการลงทุนจึงไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนักในช่วงที่ผ่านมา บริษัทผู้ให้บริการ Cloud Services (ซึ่งกองทุนหลักมีสัดส่วนการลงทุนตามธีมนี้มีประมาณ 16%) จะหันมาให้บริการในเชิงวิเคราะห์ที่เพิ่มสูงขึ้นโดยต้องใช้ artificial intelligence และ machine learning เข้ามาช่วยพัฒนาประกอบกัน

การสร้างเครือข่าย 5G (Overweight, สัดส่วนลงทุนตามธีมนี้มีประมาณ 4% ของกองทุนหลัก) กิจกรรมทางด้านนี้ไม่ได้หยุดชะงัก โดยยังดำเนินต่อไป เนื่องจากเป็นแผนริเริ่มเชิงกลยุทธ์ของผู้ให้บริการทางเครือข่ายโทรคมนาคมหรือที่เรียกว่า Telecom Operator

บริษัท Samsung – ตัวบริษัทได้ออกมาให้ความเห็นว่าอุปสงค์ต่อสมาร์ทโฟน 5G คาดว่าจะเพิ่มขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความกังวลต่อ COVID-19 ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง บริษัท China Mobile – บริษัทส่งสัญญาณเร่งการนำระบบเครือข่ายด้านการสื่อสาร 5G มาใช้ให้เร็วขึ้น เนื่องจากเป็นความสำคัญเชิงกลยุทธ์ทางด้านเทคโนโลยีระดับชาติ

ยานยนต์ไฟฟ้า (Overweight, สัดส่วนลงทุนตามธีมประมาณ 4% ของกองทุนหลัก) รถไฟฟ้า รถไฟที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ยังดำเนินต่อไป

อีคอมเมิร์ส (Overweight, สัดส่วนตามธีมประมาณ 11% ของกองทุนหลัก (รวม Digital Advertising)) แม้รายได้จาก Digital Advertising จะลดลง แต่รายได้จากอีคอมเมิร์สจะเพิ่มขึ้นเนื่องจาก High Mobile internet traffic

ตัวอย่างของบริษัทที่กองทุนหลัก Overweight position

  • Electronic Art – Online gaming company, key products include sports titles under EA sports brand, Battlefield, Star Wars etc.
  • Netflix – Online gaming company, key products include sports titles under EA sports brand, Battlefield, Star Wars etc.
  • Juniper Network – Develops networking products, including routers, switches, network management software, network security products, and software-defined networking technology.
  • Marvell Technology – Semiconductor company primarily focused on communication, storage, and embedded semiconductor products
  • KLA Corp – Supplier of process control and yield management systems for the semiconductor industry and other related nanoelectronics industries
  • Alphabet – Internet company with core businesses in search, advertising and other projects
  • Samsung Electronics – World’s largest manufacturer of consumer electronics and semiconductors

กลุ่มอุตสาหกรรม (Sub-sector) ที่ได้รับผลกระทบจาก Stay at home economy ได้แก่ เทคโนโลยีในกลุ่ม Hardware และ IT Services ซึ่งกองทุนหลัก Underweight บริษัทในกลุ่มนี้ เช่น

  • บริษัท Apple (กองทุนหลัก 5.10% VS ดัชนี MSCI ACWI IT 14.80%)
  • บริษัท Microsoft Corp (กองทุนหลัก 3.90% VS ดัชนี MSCI ACWI IT 14.10%)
  • บริษัท Visa (กองทุนหลัก 0.00% VS ดัชนี MSCI ACWI IT 3.80%)ข้อมูลในบทความนี้เป็นข้อมูลที่มีการ

เผยแพร่ต่อสาธารณะ ซึ่งนักลงทุนสามารถเข้าถึงได้โดยทั่วไป และเป็นข้อมูลที่เชื่อว่าน่าจะเชื่อถือได้ แต่ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (“บริษัท”) มิได้ยืนยันหรือรับรองถึงความถูกต้อง หรือสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด ความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความนี้เป็นเพียงการนำเสนอในมุมมองของบริษัท และเป็นความคิดเห็น ณ วันที่ปรากฏในบทความเท่านั้น ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ภายหลังวันดังกล่าว โดยบริษัทไม่จำเป็นต้องแจ้งสาธารณชน หรือผู้ลงทุนทราบ บทความฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้น บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการนำข้อมูลหรือความคิดเห็นใดๆไปใช้ในทุกกรณี ดังนั้นผู้ลงทุนควรใช้ดุลพินิจในการพิจารณา เนื่องจากการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

April 1, 2020