จีนกำลังขยายการลงทุนไปยังเงินตราต่างประเทศที่หลากหลายมากขึ้น (แฟ้มภาพเอเอฟพี)
กลุ่มสื่อจีนรายงาน (8 ก.ค.) ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ (Foreign exchange reserves) ของจีนเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา แตะระดับ 3.1192 ล้านล้านดอลลาร์ ปรับตัวสูงขึ้นเดือนก่อนหน้าร้อยละ 0.6 หรือราว 1.82 หมื่นล้านดอลลาร์ และนับเป็นจำนวนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2560
นายหวัง ชุนหยิง โฆษกสำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (State Administration of Foreign Exchange: SAFE) กล่าวว่า การปรับตัวขึ้นของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในเดือน มิ.ย.นั้น เกิดจากหลากหลายปัจจัย เช่น ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์
ในขณะเดียวกัน เมื่อเดือน มิ.ย. ปริมาณการถือครองทองคำของจีนยังปรับตัวสูงขึ้นเป็น 61.94 ล้านออนซ์ คิดเป็นมูลค่า 87.28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 330,000 ออนซ์ โดยเป็นการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน
นายต่ง เติ้งซิน ผู้อำนวยกสนสถาบันตราสารทางการเงิน มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอู่ฮั่นเห็นว่า การเติบโตขึ้นของจำนวนเงินทุนสำรองระหว่างประเทศและการถือครองทองคำ ท่ามกลางสงครามการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างจีนกับสหรัฐฯ สะท้อนว่า จีนกำลังขยายการลงทุนไปยังเงินตราต่างประเทศที่หลากหลายมากขึ้นและเพิ่มการถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และคาดว่า จีนจะเพิ่มการถือครองทองคำมากขึ้นในอนาคต
“แม้ว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จะเริ่มผ่อนคลายลง แต่จีนน่าจะลดการถือครองเงินตราและพันธบัตรสหรัฐฯ ลง และหันไปลงทุนในทางเลือกอื่นแทน โดยมีสินค้าทางการคลังของญี่ปุ่น สหภาพยุโรปและทองเป็นทางเลือกที่ดี” นายต่งกล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลกรมธนารักษ์สหรัฐ (United States Department of the Treasury) ระบุว่า เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา การถือครองพันธบัตรของสหรัฐฯ โดยจีนลดลงสู่จุดต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2560 แต่ยังคงรักษาการเป็นผู้ถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก